วันศุกร์ที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2556
กลุ่มบริษัทค้าปลีกรายใหญ่ระดับโลก พากันระงับแผนเข้าเจาะตลาดอินเดีย หลังแรงสนับสนุนทางการเมือง เพื่อการเปิดกว้างรับต่างชาติเริ่มอ่อนแอ
ข้อมูลจากกรมนโยบาย และส่งเสริมอุตสาหกรรมอินเดีย แสดงให้เห็นว่า คณะกรรมการบริหารของบริษัทค้าปลีกต่างชาติ ที่มีศักยภาพในการเข้าลงทุนบางราย แสดงความกังวลต่อการเข้ามาลงทุนในอินเดีย
สถานการณ์ข้างต้นเกิดขึ้น หลังเมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว รัฐบาลอินเดียได้เปิดตลาดค้าปลีกท้องถิ่นให้บริษัทข้ามชาติเข้ามาลงทุนเป็นครั้งแรก โดยอนุญาตให้ถือหุ้นในบริษัทร่วมทุนกับธุรกิจอินเดียได้มากถึง 51% พร้อมชูนโยบายนี้ว่า เป็นการยกเครื่องทางเศรษฐกิจครั้งใหญ่ ที่จะทำให้เงินทุนต่างชาติ ที่จำเป็นสำหรับอินเดียอย่างมาก หลั่งไหลเข้ามาในประเทศ ช่วยลดเงินเฟ้อราคาอาหาร และทำให้อุตสาหกรรมโลจิสติกส์ของอินเดียทันสมัยขึ้น
อย่างไรก็ดี พรรคฝ่ายค้านโจมตีนโยบายดังกล่าว โดยชี้ว่า ต่างชาติจะเข้ามาทำร้าย และแย่งวิถีทำมาหากินไปจากผู้ค้าปลีกท้องถิ่นกว่า 12 ล้านคน ทั้งหลาย รัฐ ภายใต้การนำของพรรคฝ่ายค้านภารติยะชันตะ ได้ต่อต้านการตัดสินใจของรัฐบาล และปฏิเสธที่จะนำนโยบายดังกล่าวไปปฏิบัติ
พรรคฝ่ายค้านยังขู่ที่จะยกเลิกมติของรัฐบาล ถ้าหากสามารถชนะศึกเลือกตั้งทั่วไปที่ จะมีขึ้นอย่างช้าที่สุดในเดือนพฤษภาคมปีหน้า
ความเห็นที่ไม่ลงรอยกันระหว่างพรรคการเมือง และความกังวลต่อความเป็นไปได้ที่จะมีคำสั่งยกเลิกการลงทุนกลางคันของรัฐ ทำให้นักลงทุนต่างชาติพากันระมัดระวังในการลงทุน และในปัจจุบันยังไม่มีนักลงทุนต่างชาติรายใด ที่นำเสนอแผนเข้าลงทุนในอุตสาหกรรมนี้เลย
ทั้งนี้ วอลมาร์ท สโตร์ส อิงค์ หนึ่งในยักษ์ใหญ่ค้าปลีก ที่ตั้งใจจะรุกตลาดค้าปลีกของอินเดีย และได้กล่าวในปลายปีที่แล้วว่าบริษัทวางแผนจะเปิดร้านวอลมาร์ทแห่งแรกๆ ภายในสองปี แต่จนถึงปัจจุบันบริษัทเองก็ยังไม่ได้ยื่นแผนโครงการการลงทุนกับรัฐบาลอินเดียเลย
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)

ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น